รถติดไฟแนนซ์ ขายได้จริงเหรอ? (เคลียร์ชัดทุกข้อสงสัย!)

รถติดไฟแนนซ์ ขายได้จริงเหรอ? (เคลียร์ชัดทุกข้อสงสัย!)

 เชื่อว่าคำถามเหล่านี้คงวนเวียนอยู่ในใจสาวๆ หลายคนที่อยากเปลี่ยนรถใหม่ แต่รถคันเก่าก็ยังคงมีภาระผ่อนอยู่กับไฟแนนซ์ใช่มั้ยคะ? ไม่ต้องกังวลไปเลยค่ะ! วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจให้กระจ่างว่า “รถติดไฟแนนซ์ก็ขายได้นะจ๊ะ” แถมยังบอกทุกขั้นตอนแบบละเอียดสุดๆ ให้การขายรถของพวกเธอเป็นเรื่องง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปากอีก!

ทำไมถึงต้องขายรถที่ยังติดไฟแนนซ์อยู่?

“นั่นสิ! ทำไมบางคนถึงต้องรีบขายรถทั้งๆ ที่ยังผ่อนไม่หมดนะ?” คำถามนี้เป็นอีกหนึ่งคำถามยอดฮิตเลยค่ะ สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้คนตัดสินใจขายรถที่ยังติดไฟแนนซ์อยู่ก็มีหลายประการเลยนะ ไม่ว่าจะเป็น:

  • อยากได้รถใหม่: นี่คือเหตุผลอันดับต้นๆ เลยค่ะ บางทีรถคันเก่าอาจจะไม่ตอบโจทย์การใช้งานแล้ว หรืออยากอัปเกรดไปใช้รถรุ่นใหม่ที่ดีกว่า
  • เจอสถานการณ์ฉุกเฉินทางการเงิน: ชีวิตคนเรามันไม่แน่ไม่นอนเนอะ บางทีก็อาจจะมีความจำเป็นต้องใช้เงินก้อนด่วน การขายรถจึงเป็นทางออกหนึ่ง
  • ภาระผ่อนตึงมือ: บางทีค่าผ่อนรถต่อเดือนอาจจะเยอะเกินไป จนกลายเป็นภาระที่หนักอึ้ง การขายรถเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายก็เป็นอีกทางเลือกที่ดี
  • ไม่ได้ใช้รถแล้ว: ย้ายที่ทำงาน, มีรถคันอื่นแล้ว หรือบางทีก็เปลี่ยนมาใช้บริการขนส่งสาธารณะ ทำให้รถจอดทิ้งไว้เฉยๆ การขายออกไปก็ดีกว่า
  • ต้องการดาวน์รถคันใหม่: ใช้เงินจากการขายรถคันเก่าไปเป็นเงินดาวน์รถคันใหม่ ทำให้ภาระผ่อนต่อเดือนลดลง

ไม่ว่าเหตุผลของเธอคืออะไร การขายรถที่ติดไฟแนนซ์อยู่ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิดแน่นอนค่ะ!

ขั้นตอนการขายรถติดไฟแนนซ์: “ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องงง!”

“เอาล่ะๆ! เข้าสู่ขั้นตอนสำคัญแล้วนะ! ฉันอยากรู้แล้วว่าถ้าจะขายรถที่ติดไฟแนนซ์ ต้องทำยังไงบ้าง?” งั้นมาดูกันเลยค่ะ! มีอยู่ 3 วิธีหลักๆ ที่ทำได้นะ

1. ขายดาวน์เปลี่ยนสัญญา: “ทางเลือกยอดฮิตสำหรับคนไม่อยากจ่ายก้อนใหญ่”

วิธีนี้คือการหาคนมาซื้อรถต่อจากเรา โดยที่ผู้ซื้อคนใหม่จะรับภาระผ่อนไฟแนนซ์ต่อจากเราไปเลยค่ะ ฟังดูง่ายใช่มั้ยคะ? แต่ก็มีรายละเอียดที่ต้องรู้สักหน่อยนะ

  • หาผู้ซื้อ: เริ่มจากการหาผู้สนใจที่จะมาซื้อดาวน์รถของเราค่ะ อาจจะประกาศขายทางออนไลน์ หรือบอกเพื่อนๆ ก็ได้
  • ตกลงราคาดาวน์: พูดคุยตกลงเรื่องราคาเงินดาวน์ที่เราต้องการจากผู้ซื้อ ซึ่งเงินดาวน์นี้ก็คือส่วนที่เราผ่อนไปแล้วนั่นแหละค่ะ
  • ติดต่อไฟแนนซ์: ขั้นตอนนี้สำคัญมาก! ต้องแจ้งไฟแนนซ์ที่เราผ่อนอยู่ว่าต้องการเปลี่ยนสัญญาค่ะ ทางไฟแนนซ์จะแนะนำเอกสารที่จำเป็นและขั้นตอนต่อไป
  • ผู้ซื้อยื่นเรื่องขอสินเชื่อ: ผู้ซื้อคนใหม่จะต้องยื่นเรื่องขอสินเชื่อกับไฟแนนซ์เพื่อโอนย้ายสัญญา ซึ่งไฟแนนซ์จะพิจารณาคุณสมบัติของผู้ซื้อคนใหม่เหมือนตอนที่เรากู้ซื้อรถเลยค่ะ (เช่น รายได้, เครดิตบูโร)
  • ทำสัญญาใหม่: ถ้าไฟแนนซ์อนุมัติ ก็จะมีการทำสัญญาเช่าซื้อฉบับใหม่ระหว่างไฟแนนซ์กับผู้ซื้อคนใหม่ค่ะ
  • โอนกรรมสิทธิ์: เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ก็จะมีการโอนกรรมสิทธิ์รถจากชื่อเราไปเป็นชื่อของผู้ซื้อคนใหม่ค่ะ

ข้อดีของการขายดาวน์เปลี่ยนสัญญา:

  • ไม่ต้องใช้เงินก้อน: เราไม่ต้องหาเงินก้อนมาปิดยอดหนี้ไฟแนนซ์ที่เหลือ
  • ผู้ซื้อรับภาระผ่อนต่อ: ภาระค่าผ่อนรถต่อเดือนจะย้ายไปที่ผู้ซื้อคนใหม่
  • ประหยัดค่าใช้จ่ายบางส่วน: ไม่ต้องเสียค่าโอนกรรมสิทธิ์รถมากเท่าการซื้อขายแบบปกติ

ข้อควรระวัง:

  • หาผู้ซื้อที่คุณสมบัติผ่านยาก: ไฟแนนซ์จะพิจารณาคุณสมบัติของผู้ซื้อคนใหม่ค่อนข้างละเอียด ถ้าผู้ซื้อเครดิตไม่ดีก็อาจจะไม่ผ่าน
  • ใช้เวลานานกว่า: กระบวนการทั้งหมดอาจจะใช้เวลาสักพัก

2. ขายให้เต็นท์รถมือสอง หรือบริษัทรับซื้อรถมือสอง: “ทางเลือกง่ายๆ สบายๆ สำหรับคนไม่มีเวลา”

ถ้าเธอเป็นสาวเวิร์คกิ้งวูแมนสุดๆ ไม่มีเวลามานั่งหาคนซื้อเอง หรือไม่อยากยุ่งยากเรื่องเอกสาร การขายให้เต็นท์รถมือสอง หรือบริษัท รับซื้อรถมือสอง โดยตรงเป็นทางเลือกที่สะดวกมากๆ เลยค่ะ

  • ติดต่อไปยังเต็นท์รถหรือบริษัทรับซื้อรถ: ลองติดต่อสอบถามไปหลายๆ ที่ เพื่อเปรียบเทียบราคาที่พวกเขาเสนอซื้อ
  • นัดหมายเพื่อตรวจสภาพรถ: เต็นท์รถหรือบริษัทรับซื้อรถมือสองจะนัดเข้ามาดูสภาพรถของเรา เพื่อประเมินราคา
  • ตกลงราคาและจัดการเอกสาร: เมื่อตกลงราคาได้ ทางเต็นท์จะดำเนินการเรื่องเอกสารต่างๆ ให้เราทั้งหมด รวมถึงการจัดการยอดหนี้ไฟแนนซ์ที่เหลืออยู่ด้วย
  • รับเงินส่วนต่าง: เราจะได้รับเงินส่วนต่างจากการขายรถหลังจากที่เต็นท์ชำระยอดหนี้ไฟแนนซ์ให้เรียบร้อยแล้ว

ข้อดีของการขายให้เต็นท์รถมือสอง:

  • รวดเร็วและสะดวก: กระบวนการไม่ซับซ้อน ใช้เวลาไม่นาน
  • ไม่ต้องยุ่งเรื่องเอกสาร: เต็นท์หรือบริษัทรับซื้อรถมือสองจะจัดการเอกสารให้ทั้งหมด
  • ไม่ต้องหาคนซื้อเอง: ประหยัดเวลาและแรง

ข้อควรระวัง:

  • ราคาที่ได้อาจจะไม่สูงเท่าขายเอง: เต็นท์รถมักจะกดราคาลงมาบ้าง เพื่อนำไปบวกกำไรต่อ
  • เลือกเต็นท์ที่น่าเชื่อถือ: ควรเลือกเต็นท์หรือบริษัทรับซื้อรถมือสองที่มีชื่อเสียงและน่าเชื่อถือ เพื่อป้องกันปัญหาในภายหลัง

3. ปิดยอดหนี้ไฟแนนซ์แล้วค่อยขาย: “ทางเลือกสำหรับคนมีเงินก้อน”

วิธีนี้คือการที่เรานำเงินไปปิดยอดหนี้ไฟแนนซ์ทั้งหมดก่อน จากนั้นจึงค่อยขายรถในฐานะรถปลอดภาระค่ะ

  • ขอสรุปยอดหนี้จากไฟแนนซ์: ติดต่อไฟแนนซ์เพื่อขอทราบยอดหนี้คงเหลือทั้งหมด (รวมดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมต่างๆ)
  • นำเงินไปชำระ: ชำระยอดหนี้ทั้งหมดให้เรียบร้อย
  • รับเล่มทะเบียนรถ: เมื่อชำระหนี้ครบถ้วน ไฟแนนซ์จะส่งเล่มทะเบียนรถคืนให้เรา
  • ประกาศขายรถ: เมื่อรถเป็นชื่อเราและมีเล่มทะเบียนพร้อม ก็สามารถประกาศขายรถได้เหมือนรถทั่วไปเลยค่ะ

ข้อดีของการปิดยอดหนี้แล้วขาย:

  • ขายได้ในราคาดีกว่า: เนื่องจากรถปลอดภาระแล้ว เราสามารถตั้งราคาขายได้เต็มที่
  • กระบวนการขายง่ายขึ้น: เหมือนการซื้อขายรถมือสองทั่วไป ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับไฟแนนซ์
  • ดึงดูดผู้ซื้อได้มากกว่า: ผู้ซื้อจะมั่นใจในรถของเรามากขึ้น

ข้อควรระวัง:

  • ต้องมีเงินก้อน: เป็นวิธีที่ต้องใช้เงินก้อนค่อนข้างเยอะในการปิดยอดหนี้

เตรียมตัวให้พร้อม! เอกสารที่ต้องใช้ (เช็กลิสต์กันลืม!)

ไม่ว่าเธอจะเลือกขายรถติดไฟแนนซ์ด้วยวิธีไหน การเตรียมเอกสารให้พร้อมก็เป็นสิ่งสำคัญมากค่ะ! มาดูกันว่ามีอะไรบ้างที่ต้องเตรียม:

  • สำเนาบัตรประชาชน: ของผู้ขายและผู้ซื้อ (กรณีขายดาวน์เปลี่ยนสัญญา)
  • สำเนาทะเบียนบ้าน: ของผู้ขายและผู้ซื้อ (กรณีขายดาวน์เปลี่ยนสัญญา)
  • เล่มทะเบียนรถตัวจริง: (ในกรณีที่ปิดยอดหนี้แล้ว) หรือสำเนาคู่มือจดทะเบียนรถ (ในกรณีที่ยังติดไฟแนนซ์)
  • สัญญาเช่าซื้อรถยนต์: (ที่เราทำไว้กับไฟแนนซ์)
  • ใบเสร็จรับเงินค่างวด: ย้อนหลัง 3-6 เดือน (เพื่อแสดงประวัติการผ่อนชำระ)
  • เอกสารอื่นๆ ที่ไฟแนนซ์หรือเต็นท์รถร้องขอ: อันนี้ต้องสอบถามจากทางนั้นโดยตรงนะคะ

คำถามยอดฮิตที่สาวๆ สงสัย: “อยากขายรถ ต้องรู้อะไรอีกบ้าง?”

1. รถติดไฟแนนซ์ “รีไฟแนนซ์” แล้วขายได้ไหม?

“รถฉันเพิ่งรีไฟแนนซ์มาเลยอ่ะ! แล้วจะขายได้ไหมเนี่ย?” ได้ค่ะ! การรีไฟแนนซ์ก็คือการที่เราไปทำสัญญาเงินกู้ใหม่กับไฟแนนซ์นั่นแหละค่ะ เท่ากับว่ารถของเราก็ยังคงติดไฟแนนซ์อยู่ดี ดังนั้น ขั้นตอนการขายก็จะเหมือนกับรถที่ติดไฟแนนซ์ปกติเลยค่ะ เพียงแต่สัญญาเช่าซื้อจะเป็นฉบับใหม่กับไฟแนนซ์ที่เราเพิ่งรีไฟแนนซ์ไปนั่นเอง

2. อยากขายรถ แต่ยอดปิดไฟแนนซ์สูงมาก ทำยังไงดี?

“โอ๊ยยย! ยอดปิดไฟแนนซ์รถฉันยังเหลือตั้งเยอะ! จะขายยังไงให้คุ้มนะ?” ถ้าเจอสถานการณ์นี้ มีหลายวิธีที่ช่วยได้นะ:

  • ลองประเมินราคารถให้ดี: เช็กราคาตลาดของรถรุ่นเดียวกัน ปีเดียวกัน เพื่อให้เราตั้งราคาขายได้อย่างเหมาะสม
  • ทำความสะอาดและซ่อมบำรุง: รถที่สภาพดี สะอาด จะได้ราคาดีกว่าเสมอค่ะ! ลองนำรถไปล้าง ขัดสี ดูดฝุ่นภายในห้องโดยสาร หรือซ่อมแซมจุดเล็กๆ น้อยๆ ที่ชำรุด
  • ประกาศขายให้หลายช่องทาง: ทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ หรือใช้บริการบริษัทรับซื้อรถมือสองที่น่าเชื่อถือ
  • พิจารณาการขายดาวน์เปลี่ยนสัญญา: ถ้าไม่อยากใช้เงินก้อนใหญ่ปิดยอด ก็ลองหาวิธีนี้ดูค่ะ

3. ซื้อรถมือสองที่ติดไฟแนนซ์ต่อดีไหม?

“ถ้าฉันอยากจะซื้อรถมือสองที่ติดไฟแนนซ์อยู่เนี่ย มันโอเคไหมนะ?” การซื้อรถมือสองที่ยังติดไฟแนนซ์อยู่ก็เป็นทางเลือกที่ดีค่ะ แต่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ และตรวจสอบข้อมูลให้ละเอียดถี่ถ้วนนะ

  • ตรวจสอบประวัติรถให้ดี: ขอเล่มทะเบียนรถมาตรวจสอบว่าไม่มีการถูกตัดเป็นซาก หรือติดจำนำจำนองอื่นใด นอกจากไฟแนนซ์ปัจจุบัน
  • ตรวจสอบประวัติการผ่อนของผู้ขาย: ขอดูใบเสร็จค่างวดย้อนหลัง เพื่อดูว่าผู้ขายชำระค่างวดตรงเวลาหรือไม่
  • ติดต่อไฟแนนซ์โดยตรง: เพื่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับสัญญาคงเหลือ และขั้นตอนการเปลี่ยนสัญญา
  • ทำสัญญาให้รัดกุม: ทั้งสัญญาระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย และสัญญาใหม่กับไฟแนนซ์

การซื้อรถติดไฟแนนซ์ต่อ มีข้อดีคืออาจจะได้รถในราคาที่ถูกลง แต่ก็มีข้อควรระวังอยู่มาก ดังนั้น ถ้าไม่มั่นใจ แนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ หรือเลือกซื้อรถมือสองที่ปลอดภาระจะดีกว่าค่ะ

บทสรุป “ขายรถติดไฟแนนซ์ไม่ยากอย่างที่คิด แค่รู้เคล็ดลับ!”

เป็นยังไงกันบ้างคะสาวๆ? หวังว่าบทความนี้จะช่วยไขข้อข้องใจเรื่อง “รถติดไฟแนนซ์ ขายได้ไหม?” และขั้นตอนต่างๆ ในการขายรถให้พวกเธอได้อย่างละเอียดและเข้าใจง่ายนะคะ ไม่ว่ารถของเธอจะติดไฟแนนซ์อยู่ หรืออยากจะ รับซื้อรถมือสอง การมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง จะช่วยให้การตัดสินใจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและราบรื่นค่ะ

การขายรถที่ติดไฟแนนซ์ไม่ใช่เรื่องซับซ้อนอย่างที่หลายคนเข้าใจ เพียงแค่ศึกษาข้อมูล เตรียมเอกสารให้พร้อม และเลือกวิธีการที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของตัวเองเพียงเท่านี้ การเปลี่ยนรถใหม่ หรือการจัดการเรื่องการเงินก็จะเป็นเรื่องง่ายๆ ในชีวิตของพวกเธอแล้วล่ะค่ะ!

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS