วันนี้ขอมาในโหมดจริงจังหน่อยนะคะ เพราะมีเพื่อนๆ หลายคนมาปรึกษาเรื่องอยากมีแบรนด์ครีมเป็นของตัวเอง แต่พอเริ่มศึกษาจริงๆ ก็รู้สึกว่ามันยุ่งยากกว่าที่คิดเยอะเลยใช่ไหมคะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสูตร เรื่องการผลิตการจดแจ้ง อย. การออกแบบแพ็กเกจจิ้ง หรือแม้แต่การตลาด คือกว่าจะครบวงจรนี่ต้องใช้ทั้งเวลาและเงินทุนมหาศาลเลย
เพื่อนๆ เคยสงสัยไหมคะว่าทำไมแบรนด์ครีมดังๆ ที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้ถึงได้มีผลิตภัณฑ์ออกมาขายมากมายขนาดนั้น แถมแต่ละตัวก็ดูน่าเชื่อถือและมีคุณภาพมากๆ เลย นั่นเป็นเพราะว่าแบรนด์ใหญ่ๆ ส่วนใหญ่ไม่ได้สร้างโรงงานผลิตเป็นของตัวเองหรอกค่ะ แต่เขาเลือกใช้บริการ โรงงาน OEM หรือที่เรียกว่า Original Equipment Manufacturer กันต่างหาก ซึ่งเป็นโมเดลธุรกิจที่ตอบโจทย์มากๆ สำหรับคนที่อยากมีแบรนด์เป็นของตัวเองแต่มีข้อจำกัดเรื่องต่างๆ
ทำไมแบรนด์ดังถึงไม่ลงทุนสร้างโรงงานเอง? มาดูกันว่าข้อดีของการใช้โรงงาน OEM มีอะไรบ้าง
ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าการลงทุนสร้างโรงงานผลิตครีมเป็นของตัวเองไม่ใช่เรื่องง่ายเลยค่ะ ต้องใช้เงินลงทุนหลักสิบล้านไปจนถึงร้อยล้านเลยนะ ไหนจะค่าที่ดิน ค่าเครื่องจักรที่ทันสมัย ค่าบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ และค่าบำรุงรักษาต่างๆ อีกมากมาย ซึ่งสำหรับแบรนด์ที่เพิ่งเริ่มต้นหรือแม้แต่แบรนด์ใหญ่ๆ การลงทุนมหาศาลขนาดนี้อาจจะไม่คุ้มค่าเท่ากับการไปว่าจ้างโรงงานที่มีความพร้อมอยู่แล้ว
โรงงาน OEM จึงเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดมากๆ ค่ะ เพราะโรงงานเหล่านี้มีทุกอย่างพร้อมสรรพ ไม่ว่าจะเป็น:
- ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์: โรงงาน OEM ส่วนใหญ่มีประสบการณ์ในการผลิตเครื่องสำอางมานาน มีทีมวิจัยและพัฒนา (R&D) ที่เชี่ยวชาญในการคิดค้นสูตรใหม่ๆ หรือปรับปรุงสูตรตามความต้องการของลูกค้า ทำให้เราได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและปลอดภัย
- ลดต้นทุนการผลิต: เมื่อเราไปใช้บริการโรงงาน OEM เราไม่ต้องลงทุนสร้างโรงงานเอง ไม่ต้องซื้อเครื่องจักร ไม่ต้องจ้างพนักงานฝ่ายผลิต ซึ่งช่วยประหยัดเงินทุนไปได้เยอะมากๆ ทำให้เราสามารถนำเงินส่วนนี้ไปทุ่มเทกับการตลาดและการสร้างแบรนด์ได้อย่างเต็มที่
- ประหยัดเวลา: การสร้างแบรนด์ครีมใหม่ต้องใช้เวลาในการพัฒนาสูตร ทดลองผลิต และขอจดแจ้ง อย. ซึ่งกระบวนการเหล่านี้โรงงาน OEM สามารถจัดการให้เราได้หมดเลยค่ะ ทำให้เราสามารถเริ่มขายผลิตภัณฑ์ได้เร็วขึ้นกว่าการทำเองทุกขั้นตอน
- ความน่าเชื่อถือและความปลอดภัย: โรงงาน OEM ที่ได้มาตรฐานจะมีระบบการผลิตที่ได้มาตรฐานสากล เช่น GMP (Good Manufacturing Practice) ซึ่งมั่นใจได้เลยว่าผลิตภัณฑ์ที่ได้จะสะอาด ปลอดภัย และมีคุณภาพตามที่กำหนด
ดังนั้น ถ้าคุณอยากจะรับสร้างแบรนด์ครีมแต่ยังไม่อยากแบกรับภาระหนักอึ้ง การเลือกใช้โรงงาน OEM คือคำตอบที่ใช่เลยค่ะ
เริ่มต้นกับโรงงาน OEM ยังไงให้ปัง! มาทำความเข้าใจกันก่อนว่ามีกี่รูปแบบ
พอรู้แล้วว่าโรงงาน OEM ดีงามขนาดนี้ ขั้นตอนต่อไปก็คือการเลือกรูปแบบการทำงานที่เหมาะกับแบรนด์ของเรา ซึ่งส่วนใหญ่แล้วโรงงาน OEM จะมีบริการหลักๆ อยู่ 2 แบบ คือ:
1. OEM (Original Equipment Manufacturer):
นี่คือรูปแบบที่เราจะคุ้นเคยกันมากที่สุดค่ะ คือเราไปเลือกสูตรที่โรงงานมีอยู่แล้ว หรือเรามีสูตรของเราเองแล้วให้โรงงานผลิตให้ แต่ผลิตภัณฑ์จะถูกติดชื่อแบรนด์ของเราและออกแบบบรรจุภัณฑ์ตามที่เราต้องการ ข้อดีคือประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการพัฒนาสูตรใหม่ๆ เหมาะสำหรับคนที่อยากเริ่มต้นธุรกิจแบบรวดเร็ว
2. ODM (Original Design Manufacturer):
สำหรับใครที่มีไอเดียเจ๋งๆ หรืออยากได้ผลิตภัณฑ์ที่มีความแตกต่างไม่เหมือนใคร รูปแบบ ODM จะตอบโจทย์มากค่ะ เพราะเราจะเข้าไปทำงานร่วมกับทีม R&D ของโรงงานเพื่อคิดค้นสูตรใหม่ทั้งหมดตั้งแต่เริ่มต้น เช่น อยากได้ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากพืชหายาก โรงงานก็จะช่วยพัฒนาสูตรขึ้นมาให้ใหม่ทั้งหมด ข้อดีคือได้ผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร แต่ก็ต้องใช้เวลาและค่าใช้จ่ายสูงกว่าแบบ OEM ค่ะ
เพื่อนๆ ลองพิจารณาดูนะคะว่าอยากจะรับสร้างแบรนด์ครีมแบบไหนที่เหมาะกับวิสัยทัศน์และงบประมาณของเรามากที่สุด
เปิดเคล็ดลับสู่ความสำเร็จของแบรนด์ครีม ที่ไม่เคยมีใครบอก!
นอกจากเรื่องการเลือกโรงงาน OEM แล้ว ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ทำให้แบรนด์ครีมประสบความสำเร็จ ซึ่งเป็นสิ่งที่แบรนด์ใหญ่ๆ ให้ความสำคัญมากๆ และเราก็ไม่ควรมองข้ามเลยค่ะ
3.1 การตลาดและแบรนด์ดิ้ง (Marketing & Branding)
ลองคิดดูนะคะว่าถ้าเรามีผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดในโลก แต่ไม่มีใครรู้จักก็ไม่มีประโยชน์ใช่ไหมคะ ดังนั้นการตลาดและการสร้างแบรนด์จึงสำคัญไม่แพ้การผลิตเลยค่ะ เราต้องคิดให้รอบด้านตั้งแต่ชื่อแบรนด์ โลโก้ สโลแกน กลุ่มเป้าหมาย ไปจนถึงช่องทางการขาย
- สร้างเรื่องราว: เล่าเรื่องราวของแบรนด์ให้คนอิน เช่น ทำไมเราถึงทำครีมตัวนี้ขึ้นมา มีจุดเริ่มต้นอย่างไร จะช่วยสร้างความผูกพันกับลูกค้าได้ดีมากๆ ค่ะ
- ใช้โซเชียลมีเดียให้เป็นประโยชน์: ใช้แพลตฟอร์มต่างๆ อย่าง Facebook, Instagram, TikTok เพื่อสร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจ ให้ความรู้ และสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า
- ใช้ Influencers/Micro Influencers: เลือกคนที่มีอิทธิพลในกลุ่มเป้าหมายของเรามาช่วยรีวิวสินค้า จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็ว
3.2 การบริการลูกค้า (Customer Service)
ลูกค้าคือหัวใจสำคัญของทุกธุรกิจค่ะ การบริการลูกค้าที่ดีจะช่วยสร้างความภักดีและทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำและบอกต่อ ลองคิดดูนะคะว่าถ้ามีลูกค้าเข้ามาสอบถามเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์แล้วเราตอบช้า หรือไม่ให้ข้อมูลที่ชัดเจน เขาก็อาจจะเปลี่ยนใจไปซื้อแบรนด์อื่นได้ง่ายๆ เลย
- ตอบคำถามอย่างรวดเร็ว: พยายามตอบคำถามของลูกค้าให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
- ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์: ให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อย่างละเอียดและตรงไปตรงมา
- สร้างความประทับใจ: สร้างความประทับใจเล็กๆ น้อยๆ เช่น การ์ดขอบคุณเขียนด้วยลายมือ หรือของแถมเล็กๆ น้อยๆ ในกล่องพัสดุก็ทำให้ลูกค้ารู้สึกดีได้ค่ะ
3.3 การสร้างความแตกต่าง (Differentiation)
ในตลาดครีมที่มีการแข่งขันสูง เราจะทำยังไงให้แบรนด์ของเราโดดเด่น? ลองหาจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมือนใครดูค่ะ เช่น เป็นครีมที่ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ 100% หรือเป็นครีมที่คิดค้นมาเพื่อแก้ปัญหาผิวเฉพาะทาง
นี่แหละค่ะคือกลยุทธ์ที่แบรนด์ใหญ่ๆ ใช้กันจนประสบความสำเร็จ ถ้าเราอยากจะรับสร้างแบรนด์ครีม ให้ปัง การให้ความสำคัญกับปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้เราก้าวไปได้ไกลแน่นอนค่ะ
เคล็ด (ไม่) ลับฉบับคนทำงาน! ประสบการณ์ตรงจากคนรู้จักที่เลือกโรงงาน OEM
พอได้มาคุยกับเพื่อนสนิทที่ทำแบรนด์ครีมของตัวเองจนประสบความสำเร็จ เธอก็เล่าให้ฟังว่าตอนแรกก็คิดหนักเหมือนกันค่ะว่าจะเริ่มยังไงดี เพราะมีเงินทุนจำกัดและไม่มีความรู้เรื่องการผลิตเลย แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจเลือกใช้บริการ โรงงาน OEM และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ฝันของเธอเป็นจริง
เธอบอกว่าข้อดีที่สุดคือโรงงานช่วยดูแลทุกขั้นตอนตั้งแต่การพัฒนาสูตรที่ตอบโจทย์ลูกค้า การออกแบบแพ็กเกจจิ้งที่ดึงดูดสายตา ไปจนถึงการจดแจ้ง อย. ให้เรียบร้อย ทำให้เธอมีเวลาไปโฟกัสกับการตลาดและการสร้างแบรนด์ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งสุดท้ายแล้วก็ทำให้แบรนด์ของเธอเติบโตได้อย่างรวดเร็ว
เธอยังเน้นย้ำอีกว่าการเลือกโรงงานก็สำคัญมาก ต้องเลือกโรงงานที่มีมาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือ และที่สำคัญคือต้องมีเคมีที่ตรงกันด้วยค่ะ เพราะเราต้องทำงานร่วมกันไปอีกนาน
นอกเรื่องแต่ต้องรู้! การสร้าง Personal Branding ของตัวเองให้เป็นที่น่าเชื่อถือ
นอกจากการสร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์แล้ว การสร้าง Personal Branding ของตัวเราเองก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กันค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่คนเชื่อในตัวบุคคลมากกว่าแบรนด์ การที่เราเป็นที่รู้จักและน่าเชื่อถือจะช่วยให้คนมั่นใจในผลิตภัณฑ์ที่เราขายมากขึ้น
ลองคิดดูสิคะว่าถ้าเราโพสต์เรื่องราวเบื้องหลังการทำงาน การเลือกส่วนผสม การผลิต หรือแม้แต่การใช้ผลิตภัณฑ์ของเราเองอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยสร้างความรู้สึกเป็นกันเองและความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ได้ดีกว่าการโพสต์ขายของอย่างเดียวแน่นอน
สร้างแบรนด์ครีมเป็นเรื่องง่าย แค่มีที่ปรึกษาที่ดี!
สุดท้ายนี้ อยากจะบอกว่าการรับสร้างแบรนด์ครีมไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิดเลยค่ะ ถ้าเรามีเป้าหมายที่ชัดเจนและมีที่ปรึกษาที่ดี ซึ่งโรงงาน OEM ที่ดีก็จะทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาที่ดีให้กับเราได้ค่ะ
โรงงานเหล่านี้จะคอยให้คำแนะนำตั้งแต่เริ่มต้นไปจนถึงขั้นตอนสุดท้าย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสูตร ส่วนผสม การออกแบบ หรือแม้แต่เทรนด์ตลาดที่กำลังมาแรง ซึ่งความช่วยเหลือเหล่านี้จะช่วยลดความผิดพลาดและเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จให้กับแบรนด์ของเราได้อย่างมาก
หวังว่าจะช่วยให้ทุกคนเห็นภาพรวมของการสร้างแบรนด์ครีมกับโรงงาน OEM ได้ชัดเจนขึ้นนะคะ และหวังว่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆ คนที่กำลังลังเลได้กล้าที่จะเริ่มต้นทำตามความฝันของตัวเองค่ะ เพราะความฝันไม่เคยไกลเกินเอื้อม แค่เริ่มต้นก็ชนะไปกว่าครึ่งแล้วค่ะ!






