เมื่อรถยนต์กระซิบชะตา

เมื่อรถยนต์กระซิบชะตา

เรื่องเล่าจากคนหลังฉาก

คนเราน่ะนะ ตอนหนุ่มๆ ก็คิดว่าโลกนี้มันมีแต่เรื่องที่เราเข้าใจ มีแต่เหตุผลให้เรายึดโยง พออายุมากขึ้น ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากเข้า จะรู้ว่าบางเรื่องมันก็เหนือคำอธิบาย โดยเฉพาะไอ้เรื่องที่เกี่ยวกับกิจการ ‘รับซื้อรถยนต์’ นี่แหละ ที่ผมเห็นมากับตาตัวเอง ไม่ใช่ครั้งสองครั้ง

แต่ก่อนผมก็เคยเป็นแค่คนทำมาหากินธรรมดาๆ เหมือนทุกคน ไม่ได้สนใจอะไรนอกจากตัวเลขกำไรขาดทุน จนกระทั่งวันหนึ่ง ผมเริ่มสังเกตเห็นอะไรบางอย่างที่มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ สิ่งที่บางคนอาจจะเรียกว่าโชคชะตา แต่สำหรับผม มันคือพลังที่ไม่อาจควบคุมได้

การตัดสินใจที่เปลี่ยนชีวิต

จำได้ว่ามีอยู่รายหนึ่ง แกชื่อลุงบุญ แกเป็นหนี้เป็นสินท่วมหัว ต้องมาขายรถคู่ชีพที่อยู่กันมาตั้งแต่หนุ่ม ผมก็คิดนะ สงสารแก รถแกก็เก่ามากแล้ว ราคา ‘รับซื้อรถยนต์’ ก็คงไม่เยอะหรอก แต่แกก็ต้องขาย หน้าตาแกตอนนั้นมันสิ้นหวังจนผมจำได้ติดตา

วันนั้นพอแกเซ็นเอกสาร รับเงินไป ลุงบุญก็หันหลังเดินจากไปอย่างหมดเรี่ยวหมดแรง เหมือนวิญญาณออกจากร่าง แต่พอแกก้าวพ้นประตูไปได้ไม่กี่ก้าว โทรศัพท์แกก็ดังขึ้น ผมเห็นแกรับสาย ฟังไปได้พักนึง สีหน้าแกก็เปลี่ยนไป จากความสิ้นหวังกลายเป็นความประหลาดใจ ผมได้ยินแกร้องออกมาว่า “อะไรนะ! ถูกหวยรางวัลที่หนึ่งเหรอ?”

จากคนเคยล้มละลาย ลุงบุญพลิกกลับมาได้ในพริบตาเดียว ตั้งแต่นั้นมาผมก็เริ่มคิด ว่าการ ‘รับซื้อรถยนต์’ มันอาจไม่ใช่แค่การแลกเปลี่ยนรถกับเงิน แต่มันเหมือนกับการแลกเปลี่ยนชะตาชีวิตบางอย่างกันเลยทีเดียว

เงาสะท้อนจากอีกมิติ

ตอนแรกผมก็คิดว่าเป็นแค่เรื่องบังเอิญ แต่พอเจอเคสแบบนี้บ่อยเข้า ผมก็เริ่มสืบ เริ่มสังเกต จนพบว่ามันมีบางอย่างที่ผูกโยงกันอยู่ รถยนต์ทุกคันที่เข้ามาสู่กระบวนการ ‘รับซื้อรถยนต์’ ของเรา มันเหมือนเป็นภาชนะที่เก็บเรื่องราว ความรู้สึก และความปรารถนาของผู้ขับขี่เอาไว้

บางที เวลาที่เราทำการซื้อขาย บางสิ่งบางอย่างมันจะถูกปลุกขึ้นมา มันไม่ใช่แค่พลังงาน แต่มันเหมือนกับมิติเล็กๆ ที่ซ้อนทับอยู่ในตัวรถ เป็นเงาสะท้อนของเส้นทางชีวิตที่อาจจะเป็นไปได้ หากเจ้าของคนเดิมไม่ตัดสินใจเปลี่ยนแปลง หรือสำหรับคนซื้อ มันคือเส้นทางใหม่ที่เปิดออก

เคยมีหนุ่มออฟฟิศคนหนึ่ง มาขายรถสปอร์ตคันหรูของเขา เพราะถูกลดตำแหน่ง เครียดจัด กลัวอนาคตจะมืดมน หลังจากเขาขายรถไปไม่ถึงอาทิตย์ เขาโทรกลับมาเล่าว่า ได้รับข้อเสนอให้ไปทำงานที่ต่างประเทศในตำแหน่งที่สูงกว่าเดิม เงินเดือนดีกว่าเดิมเยอะ ผมก็ยิ้มนะ คิดในใจว่าไอ้หนุ่มเอ๊ย รถคันนั้นมันคงเปิดประตูให้อีกบานแล้ว

พลังที่ต้องใช้ด้วยความเข้าใจ

ทุกครั้งที่เรา ‘รับซื้อรถยนต์’ ผมจะมองหาบางอย่างในดวงตาของเจ้าของรถเสมอ ไม่ใช่แค่ว่าสภาพรถดีแค่ไหน หรือจะให้ราคาเท่าไหร่ แต่มันคือการอ่านความหวัง ความกลัว หรือแม้แต่ความปรารถนาที่ซ่อนอยู่ในนั้น บางคนมาขายรถเพราะจำเป็น บางคนมาขายเพราะอยากจะเริ่มต้นใหม่ บางคนมาซื้อเพราะอยากจะเปลี่ยนชีวิต

ผมได้เรียนรู้ว่า พลังของการ ‘รับซื้อรถยนต์’ มันไม่ใช่เรื่องของการควบคุม แต่เป็นการทำความเข้าใจ เราเป็นแค่สะพานเชื่อม บางทีสิ่งที่เราทำมันไม่ใช่แค่การซื้อขาย แต่คือการช่วยให้ผู้คนได้ก้าวข้ามผ่านช่วงเวลาสำคัญในชีวิต เหมือนกับกำลังจัดเวทีเล็กๆ ให้โชคชะตาได้ทำงานของมันไป

มันสอนผมว่า การเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่เราทุกคนต้องเจอ ไม่ว่าจะดีหรือร้าย การปล่อยวางสิ่งเก่าๆ เพื่อเปิดรับสิ่งใหม่ๆ เป็นเรื่องที่ต้องอาศัยความกล้าหาญ บางครั้งรถยนต์คันเก่าที่ถูกขายไป ก็เหมือนกับกุญแจที่ไขประตูไปสู่อนาคตที่ไม่คาดคิด

บทสรุป: ไม่ใช่แค่ยานพาหนะ

สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อในเรื่องราวที่ผมเล่ามานี้ สิ่งหนึ่งที่ผมบอกได้จากประสบการณ์หลายสิบปี คือรถยนต์ไม่ได้เป็นแค่ยานพาหนะที่พาเราไปไหนมาไหน แต่มันคือส่วนหนึ่งของเรื่องราวชีวิต เป็นพยานแห่งความสุข ความทุกข์ และเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงหลายต่อหลายครั้ง

ดังนั้น คราวหน้าถ้าคุณมีเรื่องต้อง ‘รับซื้อรถยนต์’ หรือขายรถออกไป ลองมองให้ลึกกว่าแค่ตัวเลข ลองถามตัวเองดูว่า สิ่งที่คุณกำลังทำนั้น กำลังจะพาคุณไปสู่เส้นทางใด บางที รถยนต์คันนั้นอาจจะกำลังกระซิบชะตาใหม่ให้คุณอยู่ก็เป็นได้ ใครจะไปรู้.

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS