เงาอดีตในโรงงานความงาม
ไอ้หนูเอ๊ย... หากเจ้าได้ย่างกรายเข้าไปใกล้ซากปรักหักพังของสิ่งปลูกสร้างเก่าแก่ทางโน้น คงไม่รู้หรอกว่าครั้งหนึ่งมันเคยเป็นศูนย์กลางของความใฝ่ฝันของผู้หญิงทั่วทั้งแผ่นดิน ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปไวนัก ใครเลยจะเชื่อว่าไอ้ตึกร้างๆ ที่มีแต่เงาสลัวและเสียงลมหวีดหวิวคอยต้อนรับนั้น เมื่อวันวานมันคือ โรงงานผลิตเครื่องสำอาง อันเลื่องชื่อระบือนาม ความทรงจำของฉันมันช่างจางหายไปตามกาลเวลา แต่เรื่องราวบางอย่างมันฝังลึก เกินกว่าจะปล่อยให้เลือนหายไปเหมือนไอหมอกยามเช้า
เมื่อก่อนนะ ไอ้ โรงงานผลิตเครื่องสำอาง แห่งนี้คึกคักจอแจนัก เสียงเครื่องจักรทำงานตลอดทั้งวันทั้งคืน แสงไฟสว่างไสวไม่เคยดับ สินค้าหลักของเขาก็คือครีมบำรุงผิวที่ว่ากันว่าทำให้ผู้หญิงหน้าตาผุดผ่องราวกับดอกไม้แรกแย้ม ใครได้ใช้แล้วเป็นต้องกลับมาซื้อซ้ำ ชนิดที่ว่าต้องสั่งจองกันเป็นเดือนๆ ความสวยความงามในยุคนั้น มันไม่ได้มีตัวเลือกมากเหมือนสมัยนี้หรอก แต่ผลิตภัณฑ์จากโรงงานแห่งนี้ กลับสามารถสะกดใจหญิงสาวให้หลงใหลได้อย่างน่าประหลาดใจนัก ฉันเองยังเคยเห็นเมียของปลัดอำเภอที่เคยซีดเซียว กลับมาผ่องใสมีน้ำมีนวล จนเป็นที่โจษจันไปทั่วคุ้งน้ำ
ความงามที่ต้องแลกมา
แต่ความงามที่ว่านั้น มันไม่ได้มาเปล่าๆ หรอกไอ้หนู... หรืออย่างน้อยฉันก็เชื่อเช่นนั้น คุณนายศรีจันทร์ เจ้าของ โรงงานผลิตเครื่องสำอาง ผู้ซึ่งเปี่ยมไปด้วยความทะเยอทะยานและปรารถนาที่จะเป็นที่หนึ่ง เธอเป็นผู้หญิงที่งามสง่า แต่แววตาของเธอมักจะซ่อนเร้นความกระหายบางอย่างไว้เสมอ เธอต้องการให้ผลิตภัณฑ์ของเธอนำหน้าคู่แข่งทุกราย และนั่นเองที่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด เรื่องราวที่ค่อยๆ กัดกินความบริสุทธิ์ของสถานที่แห่งนั้นไปทีละน้อยๆ เสียงกระซิบกระซาบที่เริ่มดังขึ้นในโรงงานก็ไม่ใช่แค่เสียงลมพัดผ่านช่องหน้าต่างอีกต่อไป
ความผิดปกติเริ่มก่อตัวขึ้นทีละเล็กทีละน้อย คนงานเริ่มบอกเล่าถึงความรู้สึกไม่ชอบมาพากล บางคนเห็นเงาตะคุ่มๆ แวบหายไปตามมุมมืด บ้างก็ได้กลิ่นหอมหวานแปลกๆ ที่ไม่ใช่กลิ่นของเครื่องสำอางทั่วไป เป็นกลิ่นที่หอมเย้ายวน แต่กลับชวนให้รู้สึกขนลุกขนชัน เสียงเครื่องจักรที่เคยทำงานราบเรียบก็เริ่มติดขัดบ่อยครั้ง อุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ เกิดขึ้นโดยไม่มีสาเหตุชัดเจน คุณนายศรีจันทร์กลับไม่สนใจ เธอเพียงแค่เร่งรัดให้การผลิตดำเนินต่อไปราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น ราวกับว่าความสำเร็จของ โรงงานผลิตเครื่องสำอาง สำคัญกว่าสิ่งอื่นใด
กลิ่นหอมที่ซ่อนเร้น
มีตำนานเล่าขานกันถึงส่วนผสมลับของครีมวิเศษนั้น บ้างก็ว่ามันคือสมุนไพรโบราณจากป่าลึก บ้างก็ว่าเป็นน้ำค้างศักดิ์สิทธิ์ที่เก็บในคืนจันทร์เต็มดวง แต่ฉันได้ยินมาอีกเรื่อง... เรื่องเล่าที่เล่ากันอย่างลับๆ เฉพาะคนเก่าคนแก่ที่เคยทำงานใน โรงงานผลิตเครื่องสำอาง แห่งนั้น ว่าคุณนายศรีจันทร์ได้ไปพึ่งพาวิธีการที่ไม่ใช่ธรรมชาติ เธอได้ทำการติดต่อกับ "ผู้ที่อยู่เบื้องหลังม่าน" เพื่อให้ได้มาซึ่งสูตรแห่งความงามที่ไม่มีใครเหมือน ซึ่งต้องแลกมาด้วย "บางสิ่งบางอย่าง" ที่ไม่อาจเอ่ยถึงได้ง่ายๆ และนั่นคือเหตุผลที่กลิ่นหอมหวานเย้ายวนในโรงงานจึงแฝงไปด้วยความรู้สึกเย็นเยียบและชวนสยอง
หญิงสาวคนหนึ่งชื่อนวล เธอเป็นคนงานหน้าตาดีที่เพิ่งเข้ามาทำงานได้ไม่นาน ความสวยของเธอสะดุดตาคุณนายศรีจันทร์เป็นพิเศษ นวลหายตัวไปอย่างลึกลับในวันหนึ่ง ไม่มีใครพบเห็นเธออีกเลย แม้จะมีการค้นหา แต่ก็ไม่พบร่องรอยใดๆ เหตุการณ์นี้ทำให้คนงานที่เหลือหวาดกลัวอย่างหนัก และเสียงกระซิบที่ดังขึ้นใน โรงงานผลิตเครื่องสำอาง ก็เริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ มันเหมือนกับเสียงร้องไห้คร่ำครวญของผู้หญิง เสียงกระซิบเรียกชื่อของนวลวนเวียนอยู่ในความมืดมิด ฉันยังจำความรู้สึกผิดหวังในใจของฉันได้ดี ที่ได้แต่ยืนมองดูความมืดมิดค่อยๆ คืบคลานเข้ามาในสถานที่ที่เคยเต็มไปด้วยความหวัง
เงาที่คอยหลอกหลอน
จากนั้นไม่นาน โรงงานผลิตเครื่องสำอาง แห่งนั้นก็เริ่มประสบปัญหา สินค้าที่เคยโด่งดังกลับไม่เป็นที่นิยมอีกต่อไป ผู้คนเริ่มหลีกเลี่ยงที่จะใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านั้น ไม่รู้ว่าเป็นเพราะข่าวลือหรือเป็นเพราะความรู้สึกบางอย่างที่สัมผัสได้ คนงานทยอยลาออกไปทีละคนสองคน ด้วยเหตุผลที่ว่า "ทนกับเสียงกระซิบและเงาที่คอยหลอกหลอนไม่ไหว" คุณนายศรีจันทร์เองก็เริ่มดูซูบผอมและมีสีหน้าหวาดระแวงอยู่ตลอดเวลา ราวกับว่าความงามที่เธอไขว่คว้ามานั้น ได้หันกลับมาเล่นงานเธอเองในที่สุด ในท้ายที่สุด โรงงานแห่งนั้นก็ถูกทิ้งร้างกลายเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยเรื่องเล่าขานสยองขวัญ
ฉันยังจำแววตาของพวกผู้หญิงที่เคยใช้ผลิตภัณฑ์นั้นได้ดี พวกเธอสวยจริง สวยจนน่าตกใจ แต่ในแววตานั้นกลับมีบางสิ่งบางอย่างที่ขาดหายไป มันดูว่างเปล่าและไร้ชีวิตชีวา ไม่เหมือนความงามที่แท้จริงที่มาจากภายใน หลายต่อหลายครั้งที่ฉันเดินผ่านซากของ โรงงานผลิตเครื่องสำอาง แห่งนั้น ฉันมักจะได้กลิ่นหอมหวานเย้ายวนเจือจางในสายลม กลิ่นเดียวกับที่คนงานเก่าๆ เคยพูดถึง และบางครั้งฉันก็ได้ยินเสียงกระซิบเบาๆ ราวกับพยายามจะบอกเล่าเรื่องราวที่ถูกซ่อนไว้ภายใต้ความมืดมิด
บทสรุป: ความงามแท้ที่ไม่อาจซื้อได้
แท้จริงแล้วไอ้หนูเอ๊ย ความงามที่ยั่งยืนนั้นไม่ได้มาจากขวดโหลจาก โรงงานผลิตเครื่องสำอาง ที่ไหนหรอก มันมาจากจิตใจที่บริสุทธิ์ การกระทำที่ดี และความสุขที่แท้จริงจากภายใน ความทะเยอทะยานที่มากเกินไป การไขว่คว้าในสิ่งที่เกินกำลัง หรือการแลกเปลี่ยนด้วยสิ่งที่ไม่สมควร ย่อมนำมาซึ่งผลลัพธ์อันเลวร้ายเสมอ ผีที่วนเวียนอยู่ในซาก โรงงานผลิตเครื่องสำอาง เก่านั้น อาจไม่ใช่แค่ดวงวิญญาณของผู้ที่ถูกทอดทิ้ง หากแต่เป็นเงาสะท้อนของความโลภ ความทะเยอทะยาน และความหวาดกลัวที่มนุษย์สร้างขึ้นเองต่างหาก จงจำไว้ว่าความงามที่แท้จริงนั้นไม่อาจซื้อหามาได้ด้วยสิ่งใดๆ





